นายไชยเวช สันที ปม.4/1(ค้าง)

วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 7


หนังสือดี : ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เป็นผู้ที่มีแนวคิดและมีการค้นพบทฤษฎีต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ที่ลึกลับและซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง สร้างปรากฏการณ์ใหม่ และลบล้างความเชื่อเก่าๆ ลงโดยสิ้นเชิง การค้นพบของพระพุทธเจ้าเป็นการค้นพบทางนามธรรม ยากต่อการพิสูจน์ แต่การพบทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ ไม่ว่าจะเป็น สสาร พลังงาน จักรวาล ปรมาณู การยืดหดของเวลา เป็นต้น ของไอน์สไตน์ กลับช่วยให้การค้นพบส่วนหนึ่งของพระพุทธเจ้าได้รับกา รพิสูจน์และยืนยันทางคณิตศาสตร์อย่างไม่น่าเชื่อเนื้อหาของหนังสือแบ่งเป็น ๑๐ บท มีรายละเอียดอย่างคร่าวๆ ดังนี้บทที่ ๑ “ทำไมต้องไอน์สไตน์” ผู้เขียนปูพื้นฐานให้ผู้อ่านทราบประวัติชีวิตของไอน์ สไตน์ พร้อมทั้งทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านั้น ของนักวิทยาศาสตร์หลายๆ ท่านจนมาถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพอันลือลั่นของไอน์สไตน์บทที่ ๒ “จักรวาลกับพุทธศาสนา” แม้พุทธศาสนาจะบอกไว้ว่า เรื่องความเร้นลับของจักรวาลเป็นเรื่องอจินไตยไม่ควร คิด แต่ความรู้ทางพุทธศาสนาก็ปรากฏเรื่องราวเหล่านี้อยู่ หลายแห่ง และตรงกับการค้นพบและการพิสูจน์ของนักวิทยาศาสตร์สมั ยใหม่เรื่อยมา ชนิดที่นักวิทยาศาสตร์ต้องพิศวงว่าพระพุทธเจ้าทราบคว ามรู้เหล่านี้มาก่อนได้อย่างไรบทที่ ๓ “ทฤษฎีสัมพัทธภาพ” ทฤษฎีอันลือลั่นของไอน์สไตน์ ที่ขัดกับสามัญสำนึกของคนทั่วไป แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับการพิสูจน์ว่าทฤษฎีนี้ถูกต้อง เช่น เรื่องความเร็วของแสงที่คงที่เสมอ และไม่มีสิ่งใดไล่ทันความเร็วของแสงนี้ได้ แต่แสงก็ตกอยู่ภายใต้กฏของแรงโน้มถ่วง ดังนั้นจึงเดินทางเป็นเส้นโค้งได้ ตามแรงโน้มถ่วงของดวงดาว หรือไอน์สไตน์พิสูจน์ให้เห็นว่า เวลาสามารถยืดหด และเดินช้า เดินเร็วได้ ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละแห่ง เช่นเวลาของคนที่อยู่บนยานในอวกาศที่เดินทางด้วยความ เร็วสูงจะเดินช้ากว่าเวลาของคนอาศัยอยู่บนโลกบทที่ ๔ “อนัตตาภายในอะตอม” นอกจากทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์แล้วยังมีทฤษฎีควอ นตัมซึ่งทฤษฎีนี้ช่วยอธิบายส่วนที่เล็กที่สุดที่บรรจ ุอยู่ภายในอะตอม อันเป็นการช่วยยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดคงที่ มีการเปลี่ยนแปลงเสมอบทที่ ๕ “พุทธกับวิทยาศาสตร์” วิทยาศาสตร์เน้นในเรื่องของเหตุผล หลังจากการพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลายๆ อย่าง พบว่าตรงกับความรู้และคำสอนทาง================================================== =========ไม่ได้คลั่งศาสนา แล้วยกว่าพระพุทธเจ้าเหนือ อะไรนะครับ แต่แค่บอกว่ามันน่าสนใจมากครับ สมควรที่คนพุทธหลายคนควรอ่านมาก เพราะพุทธศาสนามีความเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ในตัวอยู่แล ้ว แค่บอกว่า "ความจริงเป็นยังไง เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจท่านเถิด".............................................อยากให้บรรดาพระภิกษุสงฆ์ที่ก่อม็อบเลิกได้แล้วครับ แค่ให้ศาสนาอยู่ในแผ่นกระดาษต้องอุตส่าห์มาร้อนหนาว และออกนอกแก่นแท้ของพุทธที่ไม่ยึดติดกับตัวตนเชียวหร ือครับ .... เอาเวลาไปศึกษาธรรมะแล้วเผยแผ่พุทธศาสนาที่ตอนนี้มั่ วไปหมดปนกับพราหณ์ตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือครับ - -' ....พูดตามตรง ตอนนี้หนังสือธรรมะบางเล่มที่คนธรรมดาแต่ง อ่านแล้วยังมีคุณค่ามากกว่าฟังพระท่านเทศน์อีกนะครับ พระบางองค์กล่าวเรื่องทำบุณมากได้มาก ทำน้อยได้น้อยซึ่งไม่จริงทั้งสิ้นครับ แต่เพราะงี้ไงครับ ชาวบ้านถึงงมงายเอาแต่ทำบุญ แค่ตัวเองเอาไปเลี้ยงยังไม่มีปัญญาเลย - -'' แถมยังเอาตังไปซื้อพระเครื่อง หวังรวยโชคลาภ ...ไม่จริงทั้งสิ้นครับถ้าคนเหมือนต้นไม้ ถ้าขาดทั้งพรวนดิน ทั้งปุ๋ยและน้ำ ก็ไม่มีวันโตเป็นต้นใหญ่ที่งอกงามไดด้หรอกครับจะทำบุญอย่างเดียวไม่ทำมาหากิน(รดน้ำอย่างเดียวไม่พร วนดิน) จะไปรอดได้อย่างไร จริงไหม เขียนบทความโดยคุณ Shuu คุง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น